082-965-4446 , 080-963-6661 chokbuncha@hotmail.com

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ เคล็ดลับที่ไม่ลับ อยากรู้ต้องอ่านดูจะรู้เรื่องจริง

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ หลายท่านก็คงอยากจะรู้ว่า เมื่อไหร่แบตเตอรี่รถยนต์ของท่านนั้นเสีย และจะต้องเปลี่ยน เรามาเคล็ดลับมาบอกด้วยวิธีง่ายๆ
080-963-6661082-965-4446

“ บริการของเรา ”

บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ นอกสถานที่ พร้อมติดตั้ง ด้วยช่างมืออาชีพ ครอบคลุม เขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล

“ ราคาแบตเตอรี่ ถูกจริง ”

เราเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจากโรงงานผู้ผลิต รับรองได้ว่า แบตเตอรี่ใหม่แท้ ราคาถูกจริง

“ รับประกัน อย่างไร ”

แบตเตอรี่ทุกลูก รับประกันจริง มีบริการเคลมถึงที่ ถ้าเสียจริง

“ ชำระเงินอย่างไร ”

เช็คสินค้าเสร็จ ติดตั้งเสร็จ ค่อยชำระเงิน ไม่มีความเสี่ยง

“ มีใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงินไหม ”

ทุกครั้ง บริษัทฯ ออกใบกำกับภาษี และใบเสร็จรับเงิน ให้เพื่อเป็นหลักฐาน

“ มีที่อยู่ติดต่อไหม ”

สำนักงานใหญ่ บจก. โชคบัญชา คอร์ปอเรชั่น ตั้งอยู่ที่ 80 ถ.เสนานิคม 1 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม 10230

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ เคล็ดลับง่ายๆ

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ เป็นคำถามที่ดูง่ายมาก. แต่คำตอบนี่แสนยากนะคับ. บางท่านก็ใช้ความรู้สึกตอบ. บางท่านก็ใช้ความชำนาญที่มีมาแต่เก่าแก่ตอบ บางทางก็อวดฉลาดตอบ. เรามีเทคนิคมาบอกท่านว่า เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์. ครั้งหนึ่งเมื่อท่านมาถึงรถยนต์แล้วปรากฏว่ารถยนต์สตาร์ทไม่ติด ท่านควรทำอย่างไร? คำตอบง่ายนิดเดียวครับโทรหาเราแบตเตอรี่โชคบัญชา 082-965-4446 หรือ 080-963-6661. เราพร้อมให้คำปรึกษาที่ถูกต้องตรงประเด็นชัดเจน. ไม่ต้องเสียเวลาที่จะงมกับปัญหาที่คิดไม่ตก. หรือบางท่านอาจสงสัยว่าอาการสตาร์ทไม่ติดมาจากสาเหตุอะไร. มาจากแบตเตอรี่เสื่อมหรือเปล่า. เรามีคำตอบให้ท่านได้กระจ่างว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์หรือแบตเตอรี่เสื่อมนั้นดูกันอย่างไรดังนี้.

เคล็ดลับ เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ หรือแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมหรือแบตเตอรี่รถยนต์หมด. การสังเกตว่าแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมหรือหมดนั้นมันง่ายนิดเดียวสำหรับผู้เชียวชาญ. แต่เรามีเทคนิคมาบอกท่านว่าการสังเกตว่าแบตเตอรี่เสื่อมหรือไม่นั้นหลักการดูมีอย่างไร.

1.ดูจากการเอามือไปสัมผัสข้างๆของแบตเตอรี่รถยนต์ว่าบวมหรือไม่. ถ้าปรากฏว่าบวมและท่านไม่สามารถสตาร์ทรถได้. 90% ของความเป็นไปได้คือแบตเตอรี่รถยนต์ลูกนั้นเสื่อมแน่นอน. อาการบวมของแบตเตอรี่สามารถจำแนกได้จากสาเหตุดังนี้.

  • อันดับแรกถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั้น หรือกึ่งแห้ง ถ้าท่านเคยลืมเติมน้ำกลั่นไม่ว่าแบตเตอรี่ลูกนั้นท่านจะใช้มานานเพียงใดแผ่นธาตุในแบตเตอรี่ลูกนั้นจะเกิดอาการบิดตัวและแตกร่วงลงมาซ้อนกันจึงทำให้แบตเตอรี่บวมแล้วก็เก็บไฟไม่อยู่ แต่ถ้าแบตเตอรี่ลูกนั้นใช้งานมานานเกิน 1 ปี 6 เดือนแล้วเกิดอาการบวมนั่นหมายความว่าแบตเตอรี่ที่ท่านใช้หมดสภาพแล้ว
  • อันดับที่สองถ้าแบตเตอรี่ลูกนั้นที่ท่านใช้มาเพียง 2-6 เดือนแล้วเกิดอาการบวม สาเหตุของการบวมเกิดจากไดชาร์จที่ผลิตกระแสไฟป้อนระบบรถยนต์ไม่เพียงพอและเหลือกำลังกระแสไฟน้อยกว่า 13.6 โวลต์ที่จะต้องไหลกลับไปชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ ทำไมไดชาร์จที่จ่ายกระแสไฟต่ำกว่า 13.6 โวลต์ทำให้แบตเตอรี่บวม ศัพท์ทางเทคนิคเขาเรียกว่า Under Charge ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์ต้องการไฟที่ชาร์จเข้าสูงกว่ากระแสไฟที่ตัวแบตเตอรี่เองมีอยู่ 1โวลต์เสมอ (ตัวแบตเตอรี่มีไฟอยู่ที่ 12.6 โวลต์) ดังนั้นเมื่อไฟที่ไดชาร์จส่งไปที่แบตเตอรี่ต่ำเกินไปจึงทำให้เกิด ขี้เกลือขึ้นในแบตเตอรี่หรือที่เราเรียกกันว่าคราบซัลเฟต คราบเหล่านี้จะไปเกาะตัวที่แผ่นธาตุข้างในของแบตเตอรี่และจะเป็นฉนวนกันไฟไม่ให้เดินสะดวกและแบตเตอรี่ก็บวม

2.ดูที่วันที่ในการติดตั้ง สำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในกรุงเทพฯทุกวันและวิ่งเฉลี่ยประมาณวันละ 50 กิโลเมตร โดยเฉลี่ยแล้วท่านจะสามารถใช้แบตเตอรี่รถยนต์ลูกนั้นได้ประมาณ 1 ปี 8 เดือน หรือประมาณ 60,000 กิโลเมตรในสภาวะรถติดสำหรับรถยนต์ญี่ปุ่น (แบตเตอรี่ที่ท่านใช้จะต้องใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดแอมป์รองรับกับขนาดของเครื่องยนต์ได้) และสำหรับรถยนต์ยุโรปจะใช้ได้ประมาณ 2ปี 6เดือน หรือประมาณ 70,000 กิโลเมตร

3.สำหรับท่านที่ใช้แบตเตอรี่รถยนต์ที่มีสถานะตาแมวบนแบตเตอรี่และไม่เข้าข่ายจาก 2ข้อข้างต้นให้คาดเดาเลยว่าท่านคงลืมเปิดไฟภายในรถหรือนอกรถยนต์ทิ้งเอาไว้ โดยดูได้จากสถานะของตาแมว ถ้าตาแมวมีสีขาวสำหรับแบตเตอรี่ยี่ห้อ GS, 3K และ Panasonic นั่นหมายถึงแบตเตอรี่แค่ไฟหมดไม่ได้หมายถึงแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ และสำหรับยี่ห้อ Puma และ Bosch ถ้าตาแมวมีสถานะสีดำแสดงว่าแบตเตอรี่ลูกนั้นแค่ไฟหมดไม่ได้หมายความว่าแบตเตอรี่เสื่อม หรือท่านสามารถอ่านฉลากแสดงความหมายของสถานะตาแมวที่ปิดฉลากอยู่บนแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวท่านเอง.

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ สรุปรวม

มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณแล้ว สัญญาณที่พบบ่อย ได้แก่ :

  1. หากเครื่องยนต์ของคุณสตาร์ทช้าหรือมีเสียงคลิกเมื่อคุณพยายามสตาร์ท อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่ของคุณเหลือน้อยและจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่
  2. หากไฟหน้าดูหรี่ลงกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดและไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะให้แสงสว่างเพียงพอ
  3. หากไฟเตือนแบตเตอรี่บนแผงหน้าปัดสว่างขึ้น แสดงว่ามีปัญหากับแบตเตอรี่หรือระบบการชาร์จ
  4. การกัดกร่อนของขั้วแบตเตอรี่สามารถลดกระแสไฟและทำให้แบตเตอรี่อ่อนลงได้ ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอในการสตาร์ทรถในที่สุด
  5. หากแบตเตอรี่ของคุณมีอายุมากกว่าสามถึงห้าปี แบตเตอรี่อาจหมดอายุการใช้งานและอาจต้องเปลี่ยนใหม่
  6. หากอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ของคุณ เช่น วิทยุหรือกระจกไฟฟ้าทำงานผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่ให้พลังงานไม่เพียงพอ
  7. หากคุณพบอาการเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบและเปลี่ยนแบตเตอรี่ หากจำเป็น ศูนย์บริการรถยนต์และร้านค้าปลีกแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ให้บริการทดสอบแบตเตอรี่ฟรี
Call โชคบัญชา

ช่องทางติดต่อ

082-965-4446
080-963-6661
096-490-9993
093-962-5553

Add line โชคบัญชา

สอบถามสินค้า ทางไลท์

เพิ่มเพื่อนคลิ๊กเพื่อนเลย 0829654446
คลิ๊ก...คลิ๊กเพื่อนเลย 0809636661
กด...กดเพิ่มเพื่อน 0964909993
เพิ่ม...add friends 0939625553

โชคบัญชา ออก VAT

ออกใบกำกับภาษี ใบเสร็จ

ต้องออกใบกำกับเต็มรูปแบบ เพียงบอกก่อนสั่งซื้อ

โชคบัญชา facebook น่าเชื่อถือ

ชำระเงินปลายทาง

คลิกดูลูกค้าไว้วางใจ ราคาแบตเตอรี่รถยนต์ ถูก จริง กับ บริษัทฯ โชคบัญชา คอร์ปอเรชั่น